ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ : ตัวเลือกที่ชาญฉลาด
และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการก่อสร้าง
ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ เป็นปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำรายแรกของไทยที่ได้รับการรับรอง ออกแบบมาเพื่อลดการปล่อย CO₂ ได้ถึง 0.05 ตันต่อปูนซีเมนต์ 1 ตัน นวัตกรรมนี้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก พร้อมทั้งมอบความแข็งแรงและทนทานที่โดดเด่น ตรงตามมาตรฐานสากลสำหรับความต้องการก่อสร้างที่หลากหลาย เพื่อส่งต่อนวัตกรรมการก่อสร้างที่ยั่งยืนนี้สู่ตลาดโลก SCG International ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทสำคัญของกลุ่มธุรกิจเอสซีจี ได้นำประสบการณ์กว่า 45 ปี ในด้านการบริหารจัดการซัพพลายเชนระดับสากลมาขับเคลื่อนการจัดการซัพพลายเชนอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สำหรับลูกค้าและพันธมิตรในต่างประเทศ เรามุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ตรงเวลา และได้ตามข้อกำหนด SCG International คือพันธมิตรที่คุณวางใจได้สำหรับโซลูชันการก่อสร้างที่ยั่งยืนในระดับโลก
คุณสมบัติเด่น
ลดการปล่อย CO₂
ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 0.05 ตันต่อปูน 1 ตัน สนับสนุนความพยายามระดับโลก ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความแข็งแรง
และทนทานสูง
ออกแบบให้มีความแข็งแรงในการรับแรงอัดเทียบเท่าหรือมากกว่าปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง
เพื่อความยั่งยืนในโครงการก่อสร้างต่างๆ
การผลิตที่เป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม
ผลิตโดยใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น ชีวมวล และพลังงานหมุนเวียน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ได้รับการรับรอง
ระดับสากล
ผ่านมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพระดับโลก มั่นใจได้ในความน่าเชื่อถือสำหรับโครงการระดับนานาชาติ
ทำไมต้องเลือกปูนคาร์บอนต่ำของเอสซีจี
การเลือก ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ เป็นการลงทุนในงานก่อสร้างที่ยั่งยืนและโซลูชันที่ทันสมัย นี่คือเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์ของเราเหมาะกับโครงการของคุณ:
การใช้งาน
ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของงานก่อสร้างยุคใหม่ พร้อมสนับสนุนความพยายามด้านความยั่งยืนระดับโลก ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในโครงการก่อสร้างหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน โครงการที่อยู่อาศัย และโครงการพาณิชยกรรม ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำคือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้รับเหมาและนักพัฒนาที่มองหาวัสดุที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูง
โครงการโครงสร้างพื้นฐาน:
เหมาะสำหรับการสร้างสะพาน ทางหลวง และเขื่อน ที่ต้องการวัสดุที่ยั่งยืนและทนทาน
การพัฒนาพาณิชยกรรม:
เหมาะสำหรับสำนักงาน ศูนย์การค้า และโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเป้าหมายด้านความยั่งยืน
การก่อสร้างที่อยู่อาศัย:
เหมาะสำหรับโครงการบ้านและอพาร์ตเมนต์ รวมถึงชุมชนที่ยั่งยืน
โครงการภาครัฐ:
เหมาะสำหรับโรงเรียน โรงพยาบาล และอาคารรัฐบาลที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม