Site icon SCG International

ปั้นธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วย Sustainable Supply Chain

scg international sustainable supply chain

เพราะทั่วโลกกำลังมุ่งเน้นไปที่การดูแลและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แบรนด์ที่ไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงกำลังจะค่อย ๆ หายไปในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า Sustainable Supply Chain จึงเป็นเทรนด์ใหม่ของคนทำธุรกิจ ที่ไม่ใช่แค่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและโลกเท่านั้น แต่ยังดีต่อธุรกิจอีกด้วย เพราะช่วยให้ธุรกิจเติบโตเร็วแบบก้าวกระโดด ลดต้นทุนในระยะยาว และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการ

Sustainable Supply Chain คืออะไร ทำไมทั่วโลกถึงให้ความสำคัญ

Sustainable Supply Chain คือการบริหารจัดการกระบวนการผลิตสินค้าที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บสินค้า การกระจายสินค้า การจัดส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภค รวมถึงการกำจัดของเสีย ซึ่งแตกต่างจากการบริหาร Supply Chain ทั่ว ๆ ไป ที่เพียงหาสินค้าที่มีคุณภาพตามที่ต้องการและราคาถูก โดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมากนัก

ปัจจุบันทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการหันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืน โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุก ๆ วัฏจักรชีวิตของสินค้าและบริการ

 เทียบชัด Tradition Supply Chain กับ Sustainable Supply Chain ต่างกันอย่างไร

เทียบชัด Tradition Supply Chain กับ Sustainable Supply Chain ต่างกันอย่างไร

องค์ประกอบของ Sustainable Supply Chain

การที่เราจะก้าวสู่การบริการจัดการซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนได้นั้น จะต้องมี 3 องค์ประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

  • Green Supply Chain : การบริหารจัดการการผลิตและซัพพลายเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ โดยเฉพาะการจัดหาวัสดุที่ยั่งยืน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการสร้างขยะ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นความยั่งยืนไม่ได้สนใจเพียงด้านกำไรทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย

  • Transparent Supply Chain : การเปิดเผยที่มาและข้อมูลในกระบวนการซัพพลายเชนให้โปร่งใส ตั้งแต่แหล่งของวัตถุดิบ การตรวจสอบ การขนส่ง ไปจนถึงกระบวนการกำจัดของเสียต่าง ๆ เพื่อให้รู้ถึงวิธีการผลิต แหล่งที่มาของสินค้า และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน เพื่อเพิ่มความไว้วางใจและสร้างความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน

  • Circular Supply Chain : ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในซัพพลายเชนให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสีย วัตถุดิบ สินค้าที่หมดอายุ รวมถึงพลังงาน ให้สามารถนำกลับไปใช้ได้ใหม่ ลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นหรือเป็นศูนย์ โดยพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างตลาด ลูกค้า และทรัพยากรธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ด้วยเหตุนี้ แทนที่ความสัมพันธ์ของแต่ละขั้นตอนจะเป็นไปในลักษณะของการส่งมอบงานแล้วจบไป แต่จะเป็นการใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจาก Sustainable Supply Chain จะครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการซัพพลายเชน การเปิดเผยที่มาของข้อมูล ไปจนถึงการนำของเหลือหรือของใช้แล้วจากการผลิตกลับไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการผลิตอีกครั้ง เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ

จาก Tradition Supply Chain สู่ Sustainable Supply Chain

การบริหารซัพพลายเชนแบบยั่งยืน หมุนเวียนทรัพยากรมาใช้ใหม่อย่างรู้คุณค่า

เหตุผลที่ผู้ประกอบการควรหันมาให้ความสำคัญ
กับ Sustainable Supply Chain

ผู้ประกอบการหลายคนอาจจะมองที่ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อต้องมีการบริหารจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทำ Sustainable Supply Chain เป็นผลลัพธ์ที่สร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยมีข้อดีที่สำคัญดังต่อไปนี้

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการซัพพลายเชน ช่วยลดต้นทุนในกระบวนการต่าง ๆ มีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพาร์ทเนอร์ในระยะยาว 
  • สร้างภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีให้บริษัท โดยผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากกว่า และยอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มมากกว่าปกต
  • ลดความเสี่ยงการถูกแบนจากผู้บริโภคและประเทศที่ใส่ใจเรื่องสภาพแวดล้อม เห็นได้จากการที่หลายประเทศทั่วโลกมีแคมเปญแบนพลาสติก ตัวอย่างเช่น ในสหราชอาณาจักรมีมาตรการห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) เป็นมาตรการที่ต่อเนื่องจากการประกาศห้ามใช้ไมโครบีดส์ (Microbeads) ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และการเก็บภาษีบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช่พลาสติกรีไซเคิล
  • สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ไม่ใช่ธุรกิจการฟอกเขียว (Greenwashing) ที่อ้างว่าตนเองลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแต่ไม่ได้ทำจริง 
  • สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ สามารถต่อยอดสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและสังคมได้มากยิ่งขึ้นลดความเสี่ยง สามารถรักษาชื่อเสียงของแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน ไม่มีปัญหาเรื่องการกีดกันด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมตามมา ซึ่งปัจจุบันมีหลายกลุ่มประเทศที่ห้ามการนำเข้าสินค้าที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น EU ออกกฎ EU Deforestation-free products ห้ามการนำเข้าสินค้าที่ทำลายป่าหรือทำให้ป่าเสื่อมโทรม

Sustainable Supply Chain เทรนด์ที่หลายแบรนด์ชั้นนำนำมาปรับใช้

การบริหารจัดการซัพพลายเชนในปัจจุบัน เป็นเรื่องของการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใสเป็นสำคัญ ทำให้ปัจจุบัน แบรนด์ระดับโลกได้นำเอา Sustainable Supply Chain มาใช้ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Coca-Cola ที่นำขวดพลาสกติกเก่ามารีไซเคิลใหม่ Levi ที่รับบริจาคเสื้อไม่ใช้แล้วไปทำเป็นฉนวนและวัสดุกันกระแทก หรือจะเป็นแบรนด์ไทยอย่าง Qualy ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลมาผลิตเป็นสินค้าใหม่ หรือที่เรียกว่า Upcycling Design

ด้วยเหตุนี้ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการ International Supply Chain Solutions ที่มีกระบวนการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่ครบวงจร จึงได้นำหลัก Sustainable Supply Chain มาใช้ โดยคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และผลกระทบด้านอื่น ๆ เป็นการเพิ่ม Value ให้กับแบรนด์ของลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และลดความเสี่ยงในเรื่องกฎหมายของบางประเทศที่ห้ามนำเข้าสินค้าหรือบริการที่มีกระบวนการผลิตที่ทำลายสิ่งแวดล้อม

Energy Absolute: พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรแบบ 360 องศา

บริษัท Energy Absolute เป็นผู้นำนวัตกรรมพลังงานสะอาดของประเทศไทย ปัจจุบันมีโรงงานน้ำมันไบโอดีเซล โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม และเมื่อไม่นานมานี้ได้ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศไทย มีความต้องการที่จะลดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน โดยการจัดการของเสียจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าอย่างถูกต้อง ไม่ส่งผลกระทบต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม จึงให้ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้เชี่ยวชาญด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร มาเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการ

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการ One Stop Supply Chain Solution in Asia จึงเข้ามาดูแลและบริหารจัดการซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพร้อม ๆ กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดการมลพิษจากการผลิตไฟฟ้า และการตรวจวัดค่าอากาศและน้ำจากการผลิตสินค้า ที่สำคัญที่สุด คือ การฝึกอบรมพนักงานของ Energy Absolute ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดการของเสียจากการที่ใช้ถ่านหินแล้วอย่างถูกต้อง ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จึงไม่ใช่แค่การจัดการสินค้าและวัตถุดิบที่ตรงสเปกเท่านั้น แต่เป็นซัพพลายเชนพาร์ทเนอร์ที่ดูแลทุกห่วงโซ่ของการผลิต (Whole Chain of Service) เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพของการบริหารจัดการซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน

ชมบทสัมภาษณ์เต็ม คลิก

Avery Dennison เปลี่ยนของเหลือทิ้ง ให้เป็นวัตถุดิบในการผลิต

เวลาที่เราใช้สติกเกอร์มาติดแล้วทิ้งกระดาษด้านหลังไป เคยคิดหรือไม่ว่ากระดาษเหล่านั้นจะไปที่ไหนต่อ บางคนอาจจะไม่เคยคิดถึง แต่ Avery Dennison คิดถึงสิ่งเหล่านี้ Avery Dennison เป็นแบรนด์ระดับโลกสัญชาติอเมริกัน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ สติกเกอร์ และวัสดุปิดพื้นผิว และกำลังเดินหน้าสู่การเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการวัดและรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ทุกตัว เพื่อแสดงถึงความโปร่งใส ไปจนถึงการนำวัสดุหมุนเวียนมาใช้ในการผลิต โดยเปลี่ยนของเหลือทิ้งที่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ให้กลายเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยทำให้แนวคิดที่สร้างสรรค์กลายเป็นโปรเจคส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยการเข้ามาช่วยรวบรวมเศษแผ่นรองหลังสติกเกอร์ที่ใช้แล้วจากโรงงาน มาผ่านกระบวนการรีไซเคิล โดยให้พาร์ทเนอร์ของเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินการแยกส่วนของแผ่นรองหลังสติกเกอร์ จนได้วัตถุดิบเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ สามารถนำไปผลิตเป็นกระดาษที่สามารถใช้งานได้ใหม่อีกครั้ง โดยไม่ต้องตัดต้นไม้เพิ่ม สร้างธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านการวางแผนการเก็บและคัดแยกวัตถุดิบจากของเหลือใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความฉบับเต็ม คลิก

ไม่เพียงแค่บริษัทเหล่านี้ที่ทางเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลเข้าไปบริการจัดการเท่านั้น แต่บริษัทใหญ่ ๆ ทั่วโลกที่เป็น Global Brand ก็ต่างให้ความสำคัญกับแนวคิด Sustainable Supply Chain ไม่ว่าจะเป็น Unilever, Patagonia หรือ IKEA ทำให้เห็นว่าเทรนด์ในอนาคตกำลังจะมุ่งหน้าสู่การร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืน

SCG International ผู้ให้บริการซัพพลายเชนระหว่างประเทศแบบครบวงจรในเอเชีย (End to End Supply Chain Company in Asia) ที่มีเครือข่ายพาร์ทเนอร์อยู่ทั่วโลก (Global Network) เราไม่ได้ดูแลแค่การจัดการหาวัตถุดิบและสินค้าเท่านั้น แต่ยังให้บริการซัพพลายเชนที่ครบวงจร นอกจากจะให้ความสำคัญกับการทำให้เป้าหมายด้านซัพพลายเชนของพาร์ทเนอร์ประสบความสำเร็จแล้ว เรายังมุ่งมั่นที่จะมอบบริการซัพพลายเชนที่โปร่งใสและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยประสบการณ์ในการทำ International Supply Chain กว่า 40 ปีพร้อมด้วยบุคลากรที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญในทุกกระบวนการ หากสนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับโซลูชันที่ต้องการและให้เราร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ด้านซัพพลายเชน ติดต่อเรา

Exit mobile version