Site icon SCG International

ร่วมหารือองค์กรชั้นนำ ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค SAMEA

SCG International CEO Night

4 ตุลาคม 2566 – เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เดินหน้าหาพันธมิตร พบปะสร้างเครือข่ายผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำระดับภูมิภาคกว่า 30 บริษัท เพื่อเสริมสร้าง Supply Chain Connectivity ในภูมิภาค SAMEA (South Asia เอเชียใต้ Middle East ตะวันออกกลางและ Africa แอฟริกา) เจาะพื้นที่กลยุทธ์หลัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในงาน CEO Night by SCG International โดยมีนายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี เป็นประธานกล่าวต้อนรับและมีองค์กรชั้นนำของ UAE เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก อาทิ ดูไบ โฮลดิ้ง (Dubai Holding) ยูเนี่ยน ซีเมนต์ (Union Cement) และ กัลฟ์เทนเนอร์ (Gulftainer) รวมถึง ผู้ให้บริการไฟฟ้า และระบบน้ำประปา ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองดูไบ (DEWA : Dubai Electricity & Water Authority)

บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับสามหน่วยงาน ทีมประเทศไทยในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ (สคต.) เชิญผู้นำขององค์กรระดับภูมิภาคในตะวันออกกลาง ร่วมงาน CEO Night เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างภูมิภาค ผ่านกลยุทธ์ “โซลูชันซัพพลายเชนครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ (End-To-End Supply Chain Solution)” ครอบคลุมกลุ่มสินค้าตั้งแต่ สินค้าวัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบเพื่ออุตสาหกรรม สินค้ากระดาษและบรรจุภัณฑ์ และโซลูชันธุรกิจสีเขียว

นายอบิจิต ดัดต้า กรรมการผู้จัดการ เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล มีเป้าหมายขยายธุรกิจไปภูมิภาค SAMEA โดยใช้กลยุทธ์ End-To-End Supply Chain Solution ที่ช่วยบริหารจัดการเรื่องซัพพลายเชนให้พาร์ทเนอร์ได้อย่างครบวงจร เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ (Resilience) แม้ในภาวะวิกฤติโลกที่ควบคุมได้ยาก ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้กลยุทธ์นี้เกิดขึ้นได้ คือการสร้าง TRUSTED SUPPLY CHAIN PARTNER ที่ไม่ใช่แค่การช่วยพาร์ทเนอร์ขายสินค้า หรือโซลูชันเพียงอย่างเดียว แต่เน้นการสร้างความไว้ใจและความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาว

โดยปัจจุบันเรามีออฟฟิศอยู่ที่เมืองดูไบ ที่เป็นศูนย์กลางซัพพลายเชน ครอบคลุมด้านโลจิสติกส์และการจัดการสินค้าของภูมิภาค SAMEA นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะเปิดสำนักงานใหม่ในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียภายในสิ้นปีนี้ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ในการเจาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Giga-project) ตามวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศและโครงสร้างพื้นฐานของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในปี 2030”

Exit mobile version