หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ทุกธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เกิดการชะงักงันด้านซัพพลายเชน (Supply Chain Disruption) การผลิตและส่งสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคมีอุปสรรคและปัญหามากมาย รวมถึงมีการเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการต้องมองหาโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ที่ผ่านมา SCG International ผู้ให้บริการ International Supply Chain Solutions ได้จูงมือพาร์ทเนอร์ฝ่าวิกฤตการณ์ โดยเปลี่ยนวิธีการคิดและบริหารซัพพลายเชนที่สามารถปรับเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น หรือ Resilience Supply Chain ที่ทำให้ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอะไรนับจากนี้ก็จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างไม่สะดุด และสามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน
Resilience Supply Chain คืออะไร?
อย่างที่รู้กันว่า เมื่อปี 2020 ทั่วโลกได้เผชิญกับภาวะโรคระบาดอย่างรุนแรงกับโรคโควิด-19 ทำให้หลายเมืองทั่วโลกต้อง Lock down และห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อการกระจายสินค้า จากที่เคยส่งจากผู้ผลิตไปยังร้านค้า ต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นส่งต่อถึงผู้บริโภค ส่งผลให้การซื้อของออนไลน์พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 149% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากการกระจายสินค้าแล้ว การเสาะหาวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ก็มีอุปสรรค เพราะมีการลดการส่งสินค้าข้ามประเทศ และพึ่งพาสินค้าในประเทศมากขึ้น ทำให้ประเทศที่ส่งออกสินค้าการเกษตรอย่างประเทศไทย เกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด ไม่สามารถระบายสินค้าได้ตามระบบแบบเดิมได้ การบริหารซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นจึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับความเปลี่ยนแปลงนี้ และช่วยเปลี่ยนความระส่ำระสายของระบบซัพพลายเชนให้กลับมาเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
Resilience Supply Chain คือ ความสามารถในการตอบสนองการ Disruption ของสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการวางแผนและคาดการณ์ที่ยืดหยุ่น ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ ระบบโลจิสติกส์ และการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเปลี่ยน Mindset ในการบริหารจัดการให้ทุกอย่างมีความยืดหยุ่น เพิ่มทางเลือกและเชื่อมต่อการทำงานอย่างเป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ทำไม Resilience Supply Chain ถึงมีความสำคัญ
ต่อธุรกิจในปัจจุบัน?
ต่อธุรกิจในปัจจุบัน?
ปัจจุบันได้มีการนำเอา Resilience Supply Chain มาใช้ในการวางแผนทั้งในภาวะปกติและในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ไม่คาดฝัน โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้
เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการทำงานแบบยืดหยุ่น
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการปรับเปลี่ยนไปใช้การบริหารจัดการซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่น (Resilience Supply Chain) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการจัดการ ดังต่อไปนี้
International Supply Chain Solutions
จาก SCG International พร้อมพาคุณมุ่งสู่ความสำเร็จ
SCG International คือบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติด้านบริการ End to End Supply Chain Service Provider ที่ได้นำเอาแนวคิดและปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นเสมือนกุญแจสู่การพัฒนา พร้อมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของซัพพลายเชนได้อย่างยืดหยุ่น (Resilience Supply Chain) อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เพื่อปูทางสู่ความสำเร็จในด้านซัพพลายให้กับพาร์ทเนอร์ และเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวข้ามทุกวิกฤตด้านการจัดหาสินค้าและทรัพยากร โดยใช้หลักการสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์พาร์ทเนอร์ได้อย่างครบวงจร ดังนี้
Case Study:
Resilience Supply Chain ขับเคลื่อนทุกธุรกิจได้ดีไม่มีสะดุด
Resilience Supply Chain ขับเคลื่อนทุกธุรกิจได้ดีไม่มีสะดุด
SCG International ซึ่งเป็น Leading Supply Chain Company in Asia ได้เปลี่ยนแปลงการให้บริการแก่ลูกค้า โดยนำเอาการบริหารจัดการซัพพลายเชนแบบยืดหยุ่นมาใช้ โดยมีการขายสินค้าพลังงาน ให้กับทาง Energy Absolute (EA) อย่างต่อเนื่อง ทำให้พาร์ทเนอร์ของเราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องพลังงาน แม้ว่าจะเกิดสภาวะที่ไม่แน่นอน เช่น ปัญหาการส่งออก การเกิดภัยธรรมชาติ โดยจะมีแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) รองรับทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมมาตรฐานการผลิตสินค้าพลังงานให้ได้มาตรฐาน ทั้งในส่วนของตัวสินค้าและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้คำปรึกษาด้านการจัดการของเสียที่เกิดจากการใช้งานอย่างมีคุณภาพและถูกกฎหมาย รวมถึงมีบริการตรวจปล่องอากาศเสีย ให้ปีละ 2 ครั้ง ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ไม่มีสะดุด เป็นการนำ Resilience Supply Chain มาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลจริง