ามกลางสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การทำความเข้าใจกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ตั้งแต่ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งภาครัฐและธุรกิจต่างก็ต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา จากการสำรวจล่าสุดของ World Economic Forum ได้เน้นย้ำถึงความกังวลที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการจัดการซัพพลายเชนที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดและรับมือความท้าทายอย่างมีประสิทธิผล ทำความเข้าใจความซับซ้อนที่เกิดขึ้น รวมถึงส่องกลยุทธ์เชิงรุกที่เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลนำมาใช้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ในบทความนี้
จากรายงานเรื่องความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั่วโลกของ World Economic Forum ปี 2023 จากการสำรวจจากผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,200 คนทั่วโลก พวกเขาเชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าวิกฤตด้านค่าครองชีพจะเป็นปัญหาระยะสั้นที่มีความรุนแรงมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามในอีก 10 ปีข้างหน้าการรับมือและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจะกลายเป็นปัญหาคุกคามที่ใหญ่ยิ่งกว่า โดยความเสี่ยงจาก 6 ใน 10 อันดับแรกนั้นเกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การล่มสลายของระบบนิเวศ ไปจนถึงการย้ายถิ่นโดยไม่สมัครใจในวงกว้าง
ทั้งรัฐบาล ภาคธุรกิจ และประชาชนต่างจึงต้องร่วมมือกันรับมือกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น จากรายงานผู้เชี่ยวชาญ 80% คาดการณ์ว่าความเสี่ยงจากภาวะวิกฤตหลายด้าน (Polycrisis) จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า และมีเพียง 50% เท่านั้นที่เชื่อว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในอีก 10 ปีถัดไป โดยผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าการจัดการกับภาวะวิกฤตหลายด้านสามารถเริ่มต้นได้ด้วยสองวิธี ดังนี้
- มุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายและคอยติดตามปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่เสมอ
- ดำเนินการเพื่อหยุดหรือลดการเปลี่ยนแปลงเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม
ปรับตัวรับความท้าทายระดับโลก
ด้วยกลยุทธ์ SCG International’s Resilient Supply Chain
ด้วยกลยุทธ์ SCG International’s Resilient Supply Chain
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 กรุงเทพฯ — นายอภิจิต ดัตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมเป็นหนึ่งในวิทยากรภายในงาน ‘Southeast Asia Trade and Development Forum’ ซึ่งจัดโดยสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา ในหัวข้อ ‘Conquering the Polycrisis Challenges’ กล่าวว่า “ในทุกวิกฤตมักจะมีโอกาสอยู่เสมอ ด้วยความเข้าใจในความท้าทายของลูกค้า เราจึงได้สร้างโซลูชันแบบครบวงจรขึ้นมา เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถสร้างความยืดหยุ่นและจัดการกับกระบวนการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
เมื่อพูดถึงความท้าทาย แนวคิดของการเป็น ‘พันธมิตรด้านซัพพลายเชน’ เดิมทีรูปแบบทางธุรกิจของเราคือการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เราจัดหาและส่งออกสินค้าไปทั่วโลก แต่ปัจจุบันในฐานะพันธมิตรด้านซัพพลายเชน เรามองว่าการจัดการซัพพลายเชนก็เปรียบเสมือนท่อส่งน้ำที่ปลายด้านหนึ่งคือความต้องการและปัญหาที่ลูกค้าต้องเผชิญ้ ส่วนอีกด้านคือมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย หัวใจหลักในการทำงานคือการนำโซลูชันที่มีไปส่งมอบให้กับลูกค้าได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โดยมีแนวทางหลักๆ อยู่ 3 ประการ ได้แก่
ในแง่ของการจัดการซัพพลายเชน เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพทั้งหมดของซัพพลายเชน เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จึงปรับมาใช้กลยุทธ์การทำงานร่วมกันแบบองค์รวมมากขึ้น โดยคำนึงถึงผลกระทบของการหยุดชะงักที่มีต่อเรา ซัพพลายเออร์ และลูกค้าเป็นหลัก
เป้าหมายคือเสริมสร้างโซลูชันซัพพลายเชนแบบ end-to-end ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการซัพพลายเชนที่มีความยืดหยุ่นถือเป็นสิ่งสำคัญ จากการค้าแบบดั้งเดิมสู่การเป็นพันธมิตรด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจรของเอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล ถือเป็นการตอบสนองเชิงรุกต่อความท้าทายระดับโลกที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการเน้นไปที่การสร้างโซลูชั่นที่ี่แข็งแกร่งและพร้อมจะรับมือกับความท้าทายที่หลากหลาย
หากธุรกิจของคุณกำลังประสบกับปัญหาการหยุดชะงักที่เกิดจากการพึ่งพาซัพพลายเออร์เพียงรายเดียว อย่าปล่อยให้กระบวนการซัพพลายเชนแบบเดิมมาฉุดรั้งให้เกิดข้อเสียเปรียบในการทำธุรกิจ ให้เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนลร่วมเป็นพันธมิตรด้านซัพพลายเชนที่น่าเชื่อถือให้กับคุณ
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับโซลูชันที่คุณต้องการได้ ที่นี่